เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [3. สมุจจยขันธกะ] 3. จัตตาฬีสกะ
ภิกษุรู้ที่สุดอาบัติบางส่วน ไม่รู้บางส่วน รู้ที่สุดราตรี ระลึกที่สุดอาบัติบางส่วน
ได้ ระลึกบางส่วนไม่ได้ ระลึกที่สุดราตรีได้ ไม่แน่ใจในที่สุดอาบัติบางส่วน แน่ใจใน
บางส่วน แน่ใจในที่สุดราตรี สงฆ์พึงให้ปริวาส
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้ปริวาสอย่างนี้แล
ปริวาส จบ

3. จัตตาฬีสกะ
ว่าด้วยกรณีตัวอย่าง 40 กรณี

ภิกษุอยู่ปริวาสสึก
[160] สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งกำลังอยู่ปริวาส สึกไป ภิกษุนั้นกลับมาขอ
อุปสมบทกับภิกษุทั้งหลายอีก
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ก็ในกรณีนี้ ภิกษุกำลังอยู่ปริวาส
สึกไป ปริวาสของผู้สึกย่อมใช้ไม่ได้ ถ้าภิกษุนั้นอุปสมบทใหม่ ให้ปริวาสเดิมนั้นแหละ
แก่ภิกษุนั้น ปริวาสที่ให้แล้วเป็นอันให้ดีแล้ว ปริวาสที่อยู่แล้วเป็นอันอยู่ดีแล้ว พึงอยู่
ปริวาสที่เหลือต่อไป (1)

ภิกษุอยู่ปริวาสลดฐานะเป็นสามเณร
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุกำลังอยู่ปริวาส ลดฐานะเป็นสามเณร
ปริวาสของสามเณรใช้ไม่ได้ ถ้าภิกษุนั้นอุปสมบทใหม่ ให้ปริวาสเดิมนั้นแหละแก่ภิกษุ
นั้น ปริวาสที่ให้แล้วเป็นอันให้ดีแล้ว ปริวาสที่อยู่แล้วเป็นอันอยู่ดีแล้ว พึงอยู่ปริวาส
ที่เหลือต่อไป (2)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :258 }


พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [3. สมุจจยขันธกะ] 3. จัตตาฬีสกะ
ภิกษุอยู่ปริวาสวิกลจริต
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุกำลังอยู่ปริวาส เกิดวิกลจริต ปริวาส
ของภิกษุนั้นผู้วิกลจริตใช้ไม่ได้ ถ้าภิกษุนั้นหายวิกลจริต ให้ปริวาสเดิมนั้นแหละ
แก่ภิกษุนั้น ปริวาสที่ให้แล้วเป็นอันให้ดีแล้ว ปริวาสที่อยู่แล้วเป็นอันอยู่ดีแล้ว พึง
อยู่ปริวาสที่เหลือต่อไป (3)

ภิกษุอยู่ปริวาสมีจิตฟุ้งซ่าน
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุกำลังอยู่ปริวาส มีจิตฟุ้งซ่าน ปริวาส
ของภิกษุผู้มีจิตฟุ้งซ่านนั้นใช้ไม่ได้ ถ้าภิกษุนั้นมีจิตไม่ฟุ้งซ่านอีก ให้ปริวาสเดิมนั้น
แหละแก่ภิกษุนั้น ปริวาสที่ให้แล้วเป็นอันให้ดีแล้ว ปริวาสที่อยู่แล้วเป็นอันอยู่ดีแล้ว
พึงอยู่ปริวาสที่เหลือต่อไป (4)

ภิกษุอยู่ปริวาสกระสับกระส่ายเพราะเวทนา
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุกำลังอยู่ปริวาส เป็นผู้กระสับกระส่าย
เพราะเวทนา ปริวาสของภิษุผู้กระสับกระส่ายเพราะเวทนานั้นใช้ไม่ได้ ถ้าภิกษุนั้น
ไม่กระสับกระส่ายเพราะเวทนาอีก ให้ปริวาสเดิมนั้นแหละแก่ภิกษุนั้น ปริวาสที่ให้
แล้วเป็นอันให้ดีแล้ว ปริวาสที่อยู่แล้วเป็นอันอยู่ดีแล้ว พึงอยู่ปริวาสที่เหลือต่อไป (5)

ภิกษุอยู่ปริวาสถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรม
เพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติ
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุกำลังอยู่ปริวาส ถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรม
เพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติ ปริวาสของภิกษุนั้นผู้ถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรมนั้นใช้ไม่ได้ ถ้า
ภิกษุนั้นถูกเรียกเข้าหมู่อีก ให้ปริวาสเดิมนั้นแหละแก่ภิกษุนั้น ปริวาสที่ให้แล้วเป็น
อันให้ดีแล้ว ปริวาสที่อยู่แล้วเป็นอันอยู่ดีแล้ว พึงอยู่ปริวาสที่เหลือต่อไป (6)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :259 }